วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2551

คำสั่ง unix

  1. คำสั่ง unix
    man เป็นคำสั่งการแสดงอธิบายการใช้คำสั่ง
    alias ใช้เป็นคำสั่งให้สั้นลง
    cal ใช้แสดงปฏิทินของระบบ
    clear คำสั่งลบข้อความต่างๆบนหน้าจอ
    cmp เปรียบเทียบไฟล์ 2 ไฟล์
    cat มีค่าเหมือนคำสั่ง type ของ bos ใช้ดูข้อมูลในไฟล์
    cut เป็นคำสั่งที่ใช้ตัดข้อมูลที่ไม่ต้องการออกจากระบบ
    date ใช้แสดงเวลาและวันที่
    diff ใช้เปรียบเทียบไฟล์ 2 ไฟล์มีความคล้ายต่างหันอย่างไร
    echo ใช้แสดงข้อความ HELLO
    exit ออกจากระบบ UNIX
    exipr ประมวลค่าจากสูตรคณิตศาสตร์
    find ใช้ค้นหาไฟล์ที่ต้องการ
    finger ใช้สำหรับแสดงรายละเอียด
    grep เป็นคำสั่งที่ใชหาข้อความในไฟล์
    head จะแสดงส่วนห้วแฟ้มข้อมูล
    move คำสั่งที่ช่วยให้สามารถดูข้อมูลที่มีขนาดได้เป็นช่วงๆ
    less เป็นไฟล์ข้อความเพื่อดูรายละเอียดอย่างรวดเร็ว
    passwd เป็น password คนที่ทำงานปัจจุบัน
    sort ใช้จัดเรียงข้อมูลนั้นเป็นการช่วยให้ผู้ดูแลข้อมูลนั้นสะดวกขึ้น
    su เพื่อให้ระบบมีความปลอดภัยมากขึ้นกำหนดให้ user คนไหนบ้าง
    tail ใช้สำหรับดูข้อมูลที่บรรทัดล่างสุดของไฟล์
    touch เป็นการสร้างไฟล์ไหม่หรือแก้ไขไฟล์
    w เป็นคำสั่งที่ใช้ในการกำหนดค่าที่ 8 บิต
    whoami เป็นคำสั่งที่แสดงว่าผู้ใช้ logni เข้าสู่ระบบ
    who เปลี่ยนตัวเองเป็น root
    which คำสั่งเพื่อส่งข้อมูลทางเดียวจากผู้เขียนไปถึงผู้รับ
    whereis ค้นหาแฟ้มที่ต้องการว่าอยู่ที่ห้องใด

วันอังคารที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ทรัพยากรณ์ของ UNIX

[PPT]
Slide 1
รูปแบบไฟล์: Microsoft Powerpoint - แสดงเป็นแบบ HTMLระบบปฏิบัติการ UNIX มีต้นกำเนิดจากห้องปฏิบัติการวิจัย Bell ... 1978 Version 7 ก็ ถูกพัฒนาออกมา ซึ่งเป็นต้นแบบของระบบ UNIX รุ่นใหม่ๆ หลังจากนั้น AT&T ...202.28.94.51/users/apisak/322361/2548/Test_Assign_Page.files/Data_REPORT/Group11_OS_Support/group11.ppt - หน้าที่คล้ายกัน


[PPT]
UNIX
รูปแบบไฟล์: Microsoft Powerpoint - แสดงเป็นแบบ HTMLAT&T แจก Code ของ UNIX ไปให้กับมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อหวังให้เป็นที่นิยมมากขึ้น แต่กลับทำให้เกิด UNIX ตัวใหม่ขึ้นมา เรียกว่า BSD UNIX (Berkeley Software ...www.compsci.buu.ac.th/~jakkaman/C_Programming/week01(18%20June%2001)/Unix.ppt - หน้าที่คล้ายกัน

wannalee: Unix & Linux
Unix & Linux. ประวัติและความเป็นมาของ Unix. ยูนิกซ์ (Unix แต่ชื่อตาม เครื่องหมายการค้าคือ UNIX) เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์แบบหลายงาน หลาย

ตอบคำถามความรู้เบื้องต้นเกี่ยว่กับ UNIX


**ความเป็นมาของระบบปฏิบัติการ UNIX**

ย้อนหลังไปในช่วงทศวรรษที่ 1940 และ 1950 เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่มีในโลกอาจกล่าวได้ว่าเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เนื่องจากระบบปฏิบัติการของเครื่องอนุญาตให้ผู้ใช้ใช้งานเครื่องได้เพียงครั้งละคนเดียว ดังนั้นผู้ใช้ที่มีความประสงค์จะใช้เครื่องต้องทำการจองเวลาใช้เครื่องไว้ล่วงหน้า เมื่อถึงเวลาที่จองไว้ผู้ใช้นั้นจะได้เครื่องคอมพิวเตอร์นั้นแต่เพียงผู้เดียวตลอดระยะเวลาที่จองไว้ ผู้ใช้อื่นไม่สามารถใช้งานเครื่องอีกได้ และโดยทั่วไปในระหว่างการใช้งาน ผู้ใช้ไม่ได้ใช้งานหน่วยประมวลผลกลางเต็มกำลัง เพราะอาจต้องหยุดคิดแก้ปัญหา หรือป้อนข้อมูลเข้าเครื่องซึ่งใช้ความสามารถของเครื่องน้อยมาก จึงกล่าวได้ว่าผู้ใช้งานนั้นไม่ได้ใช้เครื่องจนเต็มขีดความสามารถตลอดเวลา เนื่องจากระบบคอมพิวเตอร์ในยุคนั้นมีราคาแพงจึงเกิดแนวความคิดที่จะสร้างระบบปฏิบัติการที่ผู้ใช้สามารถใช้งานเครื่องได้เต็มกำลังตลอดเวลาโดยการให้ผู้ใช้แต่ละคนเตรียมงานไว้ล่วงหน้าโดยใช้บัตรเจาะรู เมื่อมีปริมาณของงานมากถึงระดับหนึ่งจึงจะเดินเครื่องและทำการอ่านงานเหล่านั้นเข้าไปประมวลผลต่อเนื่องกันไป ระบบปฏิบัติการเช่นนี้เรียกว่าระบบการประมวลผลแบบ batch ระบบนี้ช่วยให้ใช้งานเครื่องได้โดยมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม แต่อย่างไรก็ดีสำหรับผู้เขียนโปรแกรมแล้วระบบเช่นนี้ยังมีการตอบสนองไม่ดีนัก กล่าวคือเมื่อผู้เขียนโปรแกรมนำโปรแกรมต้นฉบับซึ่งอยู่ในรูปของบัตรเจาะรูไปส่งที่ห้องเครื่อง แล้วต้องรอเป็นระยะหนึ่งกว่าจะทราบผลการดำเนินการภายใต้ภาวะการณ์เช่นนี้การตรวจสอบและแก้ไขโปรแกรม (debugging) จึงเป็นกระบวนการที่กินเวลามาก หากผู้เขียนโปรแกรมลืมใส่เครื่องหมายวรรคตอนเพียงตัวเดียวผู้เขียนโปรแกรมต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงกว่าทราบความผิดพลาดนั้นและทำการแก้ไข ทำให้การพัฒนางานล่าช้า ดังนั้นผู้เขียนโปรแกรมโดยทั่วไปจึงต้องการระบบปฏิบัติการที่มีการตอบสนองเร็วเพื่อให้สามารถตรวจสอบแก้ไขโปรแกรมได้ดียิ่งขึ้น
จากความต้องการดังกล่าวนี้เองจึงมีการคิดระบบปฏิบัติการแบบ timesharing ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้หลายคนสามารถใช้เครื่องในเวลาเดียวกันได้ โดยอาศัยการแบ่งเวลาของหน่วยประมวลผลกลางให้แก่ผู้ใช้เวียนกันไป ระบบ timesharing ที่ประสบความสำเร็จเกิดขึ้นที่ Dartmouth College และที่ Massachusetts Institute of Technology (M.I.T.) โดยระบบของ Dartmouth College เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้สนับสนุนการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา BASIC เพียงอย่างเดียวและประสบความสำเร็จในการใช้งานทางธุรกิจในระยะหนึ่ง ส่วนระบบปฏิบัติการของ M.I.T. มีชื่อเรียกว่าระบบ CTSS เป็นระบบที่ได้รับการออกแบบเพื่อให้เป็นระบบปฏิบัติการเอนกประสงค์ และประสบความสำเร็จสูงกว่าโดยเฉพาะในกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ หลังจากระบบ CTSS ประสบความสำเร็จแล้วไม่นาน M.I.T., Bell Labs และบริษัท General Electric ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ได้ร่วมกลุ่มกันเพื่อทำการวิจัยและออกแบบระบบปฏิบัติการแบบ timesharingใหม่ให้มีความสามารถมากขึ้นและกำหนดชื่อระบบปฏิบัติใหม่เป็น MULTICS (MULTiplexed Information and Computing Service)
ระบบปฏิบัติการ MULTICS ไม่ทำงานตามที่คณะผู้ทำงานหวังไว้ เนื่องจากระบบได้รับการออกแบบให้สามารถรองรับผู้ใช้ได้หลายร้อยคนบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีหน่วยประมวลผลกลางซึ่งมีความสามารถสูงกว่าหน่วยประมวลผลกลางแบบ 80286 ในปัจจุบันเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ดีแนวความคิดดังกล่าวนี้เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ในยุคนั้นเนื่องจากเป็นระยะเริ่มต้นของการใช้คอมพิวเตอร์ โปรแกรมที่เขียนขึ้นใช้งานส่วนใหญ่เป็นโปรแกรมขนาดเล็ก สาเหตุที่แท้จริงของความล้มเหลวของโครงการนี้มีมากมายเช่นในการออกแบบระบบกำหนดให้มีการใช้ภาษาระดับสูงคือภาษา PL/I ซึ่งเป็นภาษาที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและมีการพัฒนาล่าช้ากว่ากำหนดการที่กำหนดไว้มากและมีข้อบกพร่องมากมาย นอกจากนี้แล้วยังมีการนำความคิดที่ล้ำสมัยหลายอย่างมาใช้ในขณะที่เทคโนโลยียังไม่พร้อม ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้โครงการนี้ไม่ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับการพัฒนางานของ Charles Babbage ในสมัยศตวรรษที่ 19เมื่อสิ้นระยะแรกของโครงการ ห้องปฏิบัติการ Bell ถอนตัวออกจากโครงการ ทำให้นักวิจัยคนหนึ่งในโครงการนี้คือ Ken Thompson ซึ่งว่างงานอยู่เริ่มหาแนวทางในการทำวิจัยต่อไปในที่สุดตัดสินใจที่จะทำการเขียนระบบปฏิบัติการ MULTICS แบบย่อส่วนขึ้นโดยใช้ภาษา Assembly โดยใช้เครื่องมินิคอมพิวเตอร์รุ่น PDP-7 ซึ่งว่างอยู่ในขณะนั้น ระบบปฏิบัติการของ Thompson สามารถทำงานได้เป็นอย่างดี ระบบปฏิบัติการนี้นักวิจัยอีกคนหนึ่งของห้องปฏิบัติการ Bell คือ Brian Kernighan ตั้งชื่อให้ว่า UNICS หรือ Uniplexed Information and Computing Service เพื่อเป็นการล้อเลียนโครงการ MULTICS และต่อมาได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็น UNIX

http://nooma511.exteen.com/20080923/unix



**คุณสมบัติของระบบ**

UNIXSoftwere tool- โปรแกรมบนUNIX จะแบ่งตัวเองออกเป็นส่วนย่อยๆและสามารถใช้งานส่วนย่อยเหล่านั้นร่วมกัน ระหว่างหลายๆโปรแกรมได้portability- เนื่องจาก UNIX สามารถนำไปใช้กับเครื่องแบบต่างๆได้มากมาย โปรแกรมที่ใช้งานบนUNIXจะสามารถนำไปใช้ได้ด้วยเช่นเดียวกันflexibility- UNIX จะมีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง สามารถนำไปใช้งานกับงานเล็กๆหรืองานใหญ่ๆก็ได้power- สามารถทำงานที่ซับซ้อนได้ดี และมีความสามารถในด้านต่างๆมากกว่าระบบปฏิบัติการอื่นๆmulti – user & multitasking- สามารถมีผู้ใช้งานได้ทีละหลายๆคน และทำงานหลายๆอย่างพร้อมกันElegance- หลักการทำงานของส่วนต่างๆจะเหมือนกันดังนั้นเมื่อผู้ใช้ทำงานส่วนหนึ่งได้ ก็จะเรียนรู้และใช้งานส่วนอื่นๆได้ง่ายnetwork orientation- UNIXเป็นระบบปฏิบัติการที่สนับสนุนการใช้งานเครือข่ายโดยเฉพาะเครือข่าย TCP/IP ซึ่งใช้ในระบบ Internet
http://q5a.blogspot.com/2008/09/blog-post_05.html


**โครงสร้างของระบบปฏิบัติการ UNIX**

ระบบปฏิบัติการ UNIX มีลักษณะโครงสร้างคล้ายระบบปฏิบัติการทั่วไปคือแยกการทำงานออกเป็นชั้นโดยในระดับล่างสุดเป็น hardware ประกอบด้วยหน่วยประมวลผลกลาง, หน่วยความจำ, จานแม่เหล็ก, จอภาพ และอุปกรณ์อื่นๆ ชั้นถัดมาเป็นระบบปฏิบัติการ UNIX ซึ่งมีหน้าที่ในการควบคุมและจัดการ process หน่วยความจำ ระบบแฟ้ม และhardware อื่นๆ รวมถึงการให้บริการต่างๆแก่ระดับชั้นที่อยู่เหนือขึ้นไปและสามารถให้บริการผู้ใช้โดยตรงผ่านการบริการที่เรียกว่า system call การทำงานของระบบปฏิบัติการในชั้นนี้เรียกว่า kernel mode ส่วนการทำงานของชั้นที่อยู่เหนือขึ้นไปทั้งหมดเรียกว่า user mode ชั้นที่อยู่ถัดจากระบบปฏิบัติการขึ้นไปเป็นชั้นที่เรียกว่า standard library ซึ่งเป็นที่รวมของโปรแกรมย่อยสำหรับบริการของระบบปฏิบัติการที่โปรแกรมผู้ใช้สามารถเรียกใช้ได้ เช่น open, close, read, write และ fork เป็นต้น ชั้นต่อไปเป็นชั้นของโปรแกรมอรรถประโยชน์ (utility) ในระบบ เช่น shell ตัวแปลภาษาเป็นต้น และชั้นสุดท้ายเป็นชั้นของผู้ใช้ (user)
จากโครงสร้างดังกล่าวแล้วเมื่อผู้ใช้ต้องการเรียกใช้บริการของระบบปฏิบัติการ (system call) จากโปรแกรมภาษา Assembly ผู้ใช้ต้องกำหนดค่า arguments ที่ต้องการลงใน register หรือใน stack ที่กำหนดไว้สำหรับ system call นั้นๆ จากนั้นจึงใช้คำสั่ง trap เพื่อเปลี่ยนภาวะการทำงานของโปรแกรมจาก user mode ไปเป็น kernel mode เพื่อทำงานตามความต้องการ สำหรับภาษาระดับสูงเช่น C ซึ่งไม่สามารถใช้คำสั่ง trap ได้โดยตรง ต้องมีการสร้าง library สำหรับเรียกใช้งาน system call เหล่านี้ โดยกำหนดให้มีโปรแกรมย่อยหนึ่งโปรแกรมต่อ system call หนึ่งตัว โปรแกรมย่อยเหล่านี้เขียนขึ้นด้วยภาษา Assembly และสามารถเรียกใช้ได้จากภาษา C เสมือนหนึ่งเป็นโปรแกรมย่อยที่เขียนขึ้นด้วยภาษา C เมื่อผู้ใช้ต้องการใช้งาน system call ผู้ใช้จะทำการเรียกใช้ได้เช่นเดียวกับการเรียกใช้ฟังก์ชันทั่วไปในภาษา C เช่นการเรียกใช้ READ system call โปรแกรมภาษา C จะทำการเรียกใช้ โปรแกรมย่อย READ ที่กำหนดไว้ใน library บริการหรือ system call เหล่านี้มีการกำหนดไว้เป็นมาตรฐานโดย POSIX เพื่อให้การให้บริการของระบบปฏิบัติการ UNIX ที่มีการพัฒนาจากผู้ผลิตต่างๆ มีการให้บริการแบบเดียวกันและมีวิธีการเรียกเหมือนกัน
นอกจากตัวระบบปฏิบัติการและ system calls แล้ว ระบบปฏิบัติการ UNIX ทุกระบบยังมีโปรแกรมอรรถประโยชน์ (utility) จำนวนมาก โปรแกรมเหล่านี้ส่วนหนึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน POSIX 1003.2 และอีกส่วนหนึ่งมีความแตกต่างกันออกไปตามผู้ผลิตและรุ่นระบบปฏิบัติการ โปรแกรมเหล่านี้ได้แก่โปรแกรมสำหรับติดต่อกับผู้ใช้เรียกว่า command preprocessor หรือ shell โปรแกรมตัวแปลภาษา (compiler) โปรแกรมสำหรับใช้พิมพ์เอกสารทั่วไป (editor) โปรแกรมสำหรับดำเนินการกับข้อความ (text processing program) และโปรแกรมสำหรับดำเนินการกับแฟ้ม หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือเป็นโปรแกรมทั่วไปที่ผู้ใช้เรียกใช้ในระบบนั่นเอง
จากที่ได้กล่าวมาแล้วจะเห็นได้ว่าการเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้และระบบปฏิบัติการ UNIX มีสามแบบคือ การเชื่อมต่อผ่าน system call การเชื่อมต่อผ่าน library และการเชื่อมต่อผ่านโปรแกรมอรรถประโยชน์ เนื่องจากผู้ใช้ทั่วไปมีการเชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการส่วนใหญ่ผ่านโปรแกรมอรรถประโยชน์ จึงทำให้ผู้ใช้ทั่วไปคิดว่าโปรแกรมอรรถประโยชน์เหล่านี้คือระบบปฏิบัติการ UNIX ซึ่งโดยความเป็นจริงแล้วเป็นโปรแกรมส่วนนี้ไม่ใช่ระบบปฏิบัติการและสามารถเปลี่ยนแทนได้โดยง่าย เช่นในระบบปฏิบัติการ UNIX ที่สนับสนุนการติดต่อกับผู้ใช้แบบรูปภาพ (Graphic User Interface) โดยใช้ระบบ X-Window สามารถนำโปรแกรมส่วนของการติดต่อกับผู้ใช้ด้วย mouse เพิ่มเติมเข้าในระบบหรือเปลี่ยนแทนโปรแกรมการติดต่อกับผู้ใช้ด้วยแป้นพิมพ์ โดยไม่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงตัวระบบปฏิบัติการแต่อย่างใด ความยืดหยุ่นเช่นนี้เองที่ทำให้ระบบปฏิบัติการ UNIX เป็นระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมแพร่หลาย และเป็นระบบปฏิบัติที่คงอยู่ได้ตลอดเวลาถึงแม้ว่าเทคโนโลยีจะเปลี่ยนแปลงไปเพียงใดก็ตาม


http://www.compsci.buu.ac.th/~seree/lecture/LinuxDoc/unix1.doc


**shell**

shell เป็นคำของ UNIX สำหรับการอินเตอร์เฟซ ระหว่างผู้ใช้กับระบบปฏิบัติการ shell เป็นชั้นของโปรแกรมที่เข้าใจ และประมวลผลคำสั่งที่ผู้ใช้ป้อนเข้า ในบางระบบ shell ได้รับการเรียกว่า command interpreter โดยทั่วไป shell หมายถึง การอินเตอร์เฟซกับไวยากรณ์คำสั่ง (เปรียบเทียบกับระบบปฏิบัติการ DOS และ "c:\>" คือ prompts และคำสั่งผู้ใช้ เช่น " dir" และ "edit" ) shell เป็นชั้นนอกของระบบปฏิบัติการ ดังนั้น จึงแตกต่างจาก "kernel" ซึ่งเป็นชั้นใจของระบบปฏิบัติการ หรือแกนของการบริการ

http://www.widebase.net/knowledge/itterm/it_term_desc.php?term_id=shell



**ระบบไฟล์และไดเรคทอรีบน UNIX **

UNIX มองทุกอย่างเป็นไฟล์หมด แม้แต่หน่วยความจำ (/dev/mem) ซีดีรอม (/dev/cdrom) เม้าส์ (dev/mouse) โมเด็ม (/dev/modem) ระบบไฟล์และไดเรคทอรีบนUNIX มีโครงสร้างแบบต้นไม้ (tree structure) โดยไดเรคทอรีนอกสุด คือ ไดเรคทอรีราก (root directory) ใช้ / เป็นตัวแทนครับ ซึ่งก็จะมีไดเรคทอรีย่อยแตกแขนง ออกไปอีกเช่น
/usr /local /lib /etc /bin
ในแต่ละไดเรคทอรีบรรจุไฟล์และไดเรคทอรีย่อยลงไปอีกเช่นใน /usr จะมี local bin

ชื่อไดเรคทอรีแบบนี้จะมีความหมาย ก็ต่อเมื่อ เรารู้ว่าไดเรคทอรีนอกก่อนคืออะไร วิธีเรียกชื่อแบบนี้ถูกเรียกว่า relative pathname แต่ถ้าหากเราใช้ /usr/local หรือ /usr/bin แทน local หรือ bin เราก็จะทราบโครงสร้าง tree structure ที่แท้จริงของไดเรคทอรีนี้ วิธีการเรียกแบบนี้เรียก absolute pathname ไดเรคทอรีที่ผู้ใช้ล็อกอินเข้าไปเรียกว่า home directory ซึ่งก็ขึ้นกับผู้บริหารระบบว่าจะให้ไปอยู่ที่ไหน

http://wiki.nectec.or.th/ntl/Main/Unix-doc

วันอังคารที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ระบบปฏิบัติการและ e-learning

1. คำอธิบายรายวิชา ระบบปฏิบัติการ 2
ศึกษาหน้าที่และการดำเนินงานของระบบปฏิบัติการ เกี่ยวกับการจัดการหน่วยความจำ หน่วยประมวลผลกลาง การจัดแฟ้มข้อมูล หน่วยรับและแสดงผล ข้อมูลในลักษณะเดียวของผู้ใช้คนเดียว งานเดียวและใช้หลายคน หลายงานพร้อมกัน รวมทั้งการสื่อสารระหว่างขบวนการ (Interprocess Communication : ICP)
http://work.srru.ac.th/bsdpt/curriculum/49191440101.doc
ที่มา : มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
http://bkk.vru.ac.th/it/itbd_sub.htm
ที่มา : มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรน์
http://www.cs45mcru.com/modules.php?name=History&file=explain
ที่มา : มหาวิทยาลัยหมู่บ้าน
http://reg.npu.ac.th/registrar/program_info_1.asp?f_cmd=2&levelid=3&programid=10003585&facultyid=1&departmentname=%C7%D4%B7%C2%D2%C8%D2%CA%B5%C3%BA%D1%B3%B1%D4%B5&programname=%E0%B7%A4%E2%B9%E2%C5%C2%D5%CA%D2%C3%CA%B9%E0%B7%C8&facultyname=%C8%D4%C5%BB%C8%D2%CA%B5%C3%EC%E1%C5%D0%C7%D4%B7%C2%D2%C8%D2%CA%B5%C3%EC&levelname=%BB%C3%D4%AD%AD%D2%B5%C3%D5+4+%BB%D5
ที่มา : มหาวิทยาลัยราชภัฏนครพนม
http://mis.pkru.ac.th/syllabus/view_syllabus.php?id=61
มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต
http://202.29.21.6/~bangkom/bindex.htm
มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี
http://academic.pcru.ac.th/index/course/7_12.htm
มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์
http://cs.mcru.ac.th/modules.php?name=History&file=explain
มรภ.หมู่บ้านจอมบึง จังหวัดราชบุรี

http://cptd.chandra.ac.th/index.php?Content=subject47
มหาวิทยาลัย ราชภัฏนครสวรรค์
http://www.nsru.ac.th/computer/curriculum/subject.php?id=4121402&course_id=3
สถาบันบัณฑิตบริหารศาสตร์

การแนะนำตัวเอง

ชื่อ : นายวิทยา ศิรินัย
รหัสนักศึกษา : 5012252111
ชื่อเล่น : บิ๊ก
เพื่อนสนิท : 1. นายโอภาส ศรีชื่น
To : 081613556
2. นาย รณชัย พิมพ์แต้ม
To : 0804717411
URL : http://bign99.blogspot.com/
http://www.big_n99@hotmail.com/
To : 0851396109
http://wittaya2531@yahoo.com