วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

คำสั่งอื่น ๆ

  1. At : นั้นมีไว้สำหรับสั่งการให้โมเด็มซ้ำสตริงคำสั่งสุดท้าย โมเด็มจะ ปฏิบัติตามคำสั่งทันทีที่พิมพ์เครื่องหมาย/ ไม่จำเป็นต้องป้อนคำเติมหน้าคำสั่ง
  2. Cpio : ต้องการชื่อเต็ม (full pathname) ดังนั้นถ้าผู้ใช้ทำการอ้างชื่อ ไดเรกทอรีปลายทางแบบ relative
  3. Bc : เป็นโปรแกรมเครื่องคิดเลขแบบบรรทัดคำสั่ง. สร้างฟังก์ชัน, คำนวณ คณิตศาสตร์ชั้นสูงเช่นยกกำลัง
  4. Basename : เป็นคำสั่งสำหรับสกัดเอาชื่อไฟล์ไฟล์โดยตัดส่วนขยายชื่อไฟล์ (file extension) .gif ออก
  5. Last : เป็นคำสั่งที่จะทำให้ loop หยุดทำงานและออกมาจาก loop ทันที
  6. Crontab : มีไว้เพื่อการตั้งเวลาทำงานคำสั่งหรือโปรแกรมล่วงหน้า ตามเวลาที่ ผู้ใช้ต้องการ แต่การเปิดอนุญาติเช่นนี้อาจสร้างปัญหาให้แก่ระบบ
  7. Dd : ใช้สำหรับจัดย่อหน้าสำหรับคำอธิบาย
  8. Du : แสดงการเนื้อที่ใช้งาน ของแต่ละ directory โดยละเอียด. ช่วยให้ผู้ดูแล ระบบรู้ว่า directory ใด ใช้เนื้อที่ใด หรือใช้ดูรวม ๆ
  9. Dirname : คือเปลี่ยนทั้งเจ้าของไฟล์และกลุ่มไปพร้อมกันทุกไฟล์ใน Sub dirname
  10. Ln : เป็นคำสั่งไว้สร้าง link ไปยังที่ ที่ต้องการ คลายกับ shortcut ใน
  11. Env : แสดงค่า environment ปัจจุบัน
  12. Eject : คำสั่ง EJECT เป็นคำสั่งให้นำคำสั่งที่ตามหลังคำสั่ง EJECT ไปขึ้นหน้าใหม่ ทั้งนี้เพื่อให้แต่ละส่วนของโปรแกรมใหญ่ๆ ขึ้นหน้าใหม่ ส่วนคำสั่ง EJECT จะไม่ปรากฏใน Assembly Listing
  13. Exec : ที่ใช้ในการแทนค่าตัวแปรแล้วรันคำสั่งแบบพลวัต (dynamicly) บันทึกพฤติกรรมของ exec ไว้
  14. Free : แสดงหน่วยความจำที่เหลืออยู่บนระบบ โครงสร้างคำสั่ง free [-b-k-m] โดย option ที่มักใช้กันใน free คือ -b แสดงผลลัพธ์เป็นหน่วย byte
  15. Groups :
  16. Hostname : คำสั่งแสดงชื่อผู้ใช้ขณะใช้งาน $ logname คำสั่ง id ใช้แสดงชื่อและกลุ่มมของผู้ใช้ งาน $ id คำสั่ง tty แสดงหมายเลข terminal ที่ใช้งานอยู่
  17. Lp :
  18. Mount : เป็นคำสั่งเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับระบบ) รู บแบบการใช้งาน mount
  19. Mt : คำสั่งกำหนดและแก้ไขรหัสผ่านของ User ของระบบ Unix,Linux ... คำสั่งกำหนดคำสั่งย่อ ของระบบ Unix,Linux
  20. Nice : คำสั่งหรือโปรอกรมเข้าสู่เครื่อง .... ติดต่อ nice หรือ ติดต่อผู้บริหารเว็บไซต์ + Powered by KnowledgeVolution
  21. Nohup :
  22. Netstat : จะแสดงเป็นตัวเลข IP ยากต่อการเดา และการดูจริงๆคุณต้องสังเกตที่ port ที่เครื่องคุณด้วยว่าเป็น port ที่ใช้ทำอะไร
  23. Od : แสดงเนื้อหาในไฟล์ไบนารี่
  24. Pr : คือส่วนหนึ่งของภาษา HTML. คุณสามารถใช้ BBCode ในข้อความที่คุณพิมพ์. และคุณสามารถยกเลิกการใช้ BBCode ในแต่ละข้อความได้ในแบบฟอร์มกรอกข้อความ. BBCode มีรูปแบบคล้ายๆกับภาษา HTML
  25. Df : แสดงเนื้อที่ใช้งานทั้งหมดของ Harddisk ว่าเหลือเท่าใด
  26. Printf : รับค่าตัวแรกเป็นข้อความที่จัดรูปแบบการแสดงผล และรับรายการของข้อมูลที่ต้องการแสดงผลถัดไป. รูปแบบการแสดงผลจะถูกระบุโดยเครื่องหมาย % ตามด้วยอักษรแสดงรูปแบบ. ในกรณีนี้ %d ระบุว่าเราจะพิมพ์ตัวเลขฐานสิบ
  27. Df : (ซ้ำกัน)
  28. Printenv : คำสั่งนี้จะแสดงค่าตัวแปลสภาพ แวดล้อม. ตัวอย่าง:. -เซ็ตค่าตัวแปรสภาพแวดล้อม. จะใช้คำสั่ง ‘setenv’
  29. Pg : เป็นคำสั่งใช้แสดง content ของไฟล์ ทั้งหมดทีละจอภาพ ถ้าต้องการแสดงหน้า ถัดไป ต้องกด แป้น enter; รูปแบบ. pg filename
  30. Quota :
  31. rlogin : ใช้เพื่อเปิดการเชื่อมต่อ ด้วย rlogin. rsh. ใช้เพื่อ execute คำสั่งแบบ Remote (การใช้คำสั่งทำงานบน Host อื่นแบบ Remote)

วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

คำสั่งเกี่ยวกับการติดต่อสือสาร

1. telnet : ใช้ติดต่อเข้า server ต่าง ๆ ตาม port ที่ต้องการ แต่ ปัจจุบัน server ต่าง ๆ ปิดบริการ telnet แต่เปิด SSH แทน
2. ftp : ftp เป็นคำสั่งที่ใช้ถ่ายโอนไฟล์ข้อมูลจากที่หนึ่ง ไปยังอีกที่หนึ่ง โดยการติดต่อกับ host ที่เป็น ftp นั้นจะต้องมี user name และมี password ที่สร้างขึ้นไว้แล้ว แต่ก็มี ftp host ที่เป็น public อยู่ไม่น้อยเช่นกัน ดังนั้นจะมี user name ที่เป็น publicเช่นกัน คือ user ที่ชื่อว่า anonymous ส่วน password ของ user anonymous นี้จะใช้เป็น E-mail ของผู้ที่จะ connect เข้าไปและโปรแกรมส่วนใหญ่ก็จะอยู่ใน directory ชื่อ pub
3. lynx : เป็นโปรแกรมเว็บบราวเซอร์ซึ่งทำงานด้วยข้อความล้วน ๆ ไม่สามารถแสดง รูปภาพได้ เริ่มต้นใช้งานด้วยการล้อกอินเข้าระบบด้วยยูสเซอร์
4. mesg : mesg จะใช้เพื่อควบคุมว่าผู้อื่นมีสิทธิที่จะส่งข้อความ write ถึงเราหรือไม่. โครงสร้างคำสั่ง
5. ping : Ping เป็นคำสั่งพื้นฐานในการตรวจสอบการสื่อสารข้อมูลระหว่างเครื่องส่งและ เครื่องรับ โดยจะส่งข้อมูลหรือแพ็คเกจขนาด 32K
6. write : จะเป็นการแสดงค่าของตัวแปรหรือข้อมูลออกทางจอภาพ เครื่องพิมพ์ หรือ นำไปเก็บไว้ที่แฟ้มข้อมูล เมื่อแสดงค่าด้วยคำสั่ง Write แล้วจะไม่ขึ้นบรรทัดใหม่ สิ่งที่จะแสดงต่อไปจะแสดงต่อจากสิ่งที่แสดงก่อนหน้านี้

คำสั่งสำรองข้อมูล

1. Tar : เป็นคำสั่งพื้นฐานมากๆ บนระบบ Linux หรือ Unix ... หลังจากได้ tar มาแล้ว
2. Gzip : ใช้ zip หรือ Unzip ไฟล์ packet โดยมากแล้วจะเป็น .tar เช่น$ gzip filename.tar ผลที่ได้จะได้ไฟล์ซึ่งมีการ zip แล้วชื่อ filename.tar.gz$ gzip -d filename.tar.gz ใช้ unzip ไฟล์ผลที่ได้จะเป็น filename.tar
3. Gunzip : เป็นคำสั่งสำหรับขยายไฟล์ที่ถูกบีบอัดให้มีขนาดเท่าเดิม รูปแบบ: gunzip

คำสั่งเกี่ยวกับการจัดโปรเซส

1. Ps : แสดง Process หรือโปรแกรมที่ประมวลผลอยู่ในระบบขณะนั้น. ช่วยให้ผู้ดูแล ระบบ ติดตามได้ว่ามีโปรแกรมอะไรที่ไม่ถูกต้อง run อยู่ หรือโปรแกรมอะไร
2. Kill : ช่วยยกเลิก process ที่ไม่ถูกต้องออกจากระบบ ถ้าขณะนั้นผู้ใช้คนหนึ่งกำลังใช้งานอยู่ หาก process หลักของเขาถูก kill จะทำให้ผู้ใช้ท่านนั้น หลุดออกจากระบบทันที (สำหรับคำสั่งนี้จะถูกใช้โดย super user เท่านั้น ผู้ใช้ธรรมดาไม่มีสิทธิ)
3. Fg :
เป็นทางที่สามในการส่ง Signals ให้แก่ process โดยการใช้ kill system call ซึ่งเป็นวิธีในการส่ง signal จาก 1 process ไปยังที่อื่น ๆ โดยสามารถใช้ได้ทั้ง “kill command” หรือ “fg command” ก็ได้ โดยต้องมีการ include signal.h ด้วย จึงจะสามารถใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ ได้เช่น kill เป็นต้น ซึ่ง process จะหยุดการทำงานของตัวเองโดย การส่ง PID ตัวเองไปให้ฟังก์ชัน ใน signal.h จัดการ ดังตัวอย่างการเรียกใช้ฟังก์ชัน kill ในโปรแกรม
4. Bg :
5. Jobs : (เป็นคำสั่งสำหรับกำหนดควบคุม การรับส่งผ่าน ข้อมูลของ Firewall)

คำสั่งเกี่ยวกับการจัดการไฟล์

คำสั่ง เกี่ยวกับการจัดการไฟล์
1. ls : ใช้แสดงรายชื่อแฟ้มทั้งหมดใน home direct
2. cd : เป็นคำสั่งที่ใช้เปลี่ยนไปยังไดเรคทอรีย่อยของเครื่องคอมพิวเตอร์ปลายทาง ที่ต้องการ
3. file :
4. pwd : แสดง directory ที่เราอยู่ปัจจุบัน
5. Mv : ใช้ในการย้ายที่อยู่ (Move) หรือเปลี่ยนชื่อ (Rename) ไฟล์หรือ ไดเรคเทอรี. รูปแบบการใช้งาน
6. MKdir : คำสั่งนี้เป็นคำสั่งในการสร้าง directory ขึ้นมา
7. Rm : เป็นคำสั่งที่ใช้ลบข้อมูล file ข้อมูล เกิดได้หลายกรณี เช่น เกิดจากการ ftp ขึ้นมาวางไว้
8. Rmdir : เป็นคำสั่งสำหรับการลบไดเร็คทอรี่ รูปแบบ: rmdir directory_name คือ ชื่อไดเร็คทอรี่ที่ต้องการลบ
9. Chown : ใช้สำหรับเปลี่ยนเจ้าของแฟ้มข้อมูลหรือ Directory. โครงสร้างคำสั่ง. chown [ option]... owner[:group] file หรือ. chown [option]... :group file
10. Cgrp : ใช้สำหรับเปลี่ยนกลุ่มเจ้าของแฟ้มข้อมูลหรือ Directory โครงสร้างคำสั่ง

วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

การใช้โปรแกรม ADOB BE CAPTIVATE 3.0

คู่มือการใช้
ADOB BE CAPTIVATE 3.0
ขั้นตอนการติดตั้ง1. ปิดโปรแกรมที่เปิดใช้งานต่างอยู่
2. เลือกโปรแกรมจากแผ่น CD หรือจาก Folder ที่มีโปรแกรม
ในชุดโปรแกรมที่ติดตั้งจะมีไฟล์ที่สำคัญอยู่ด้วยกันคือ Adobe_Captivate_3_WWE และ Keygen
3. เมื่อติดตั้งให้ดับเบิลคลิกที่ไฟล์ Adobe_Captivate_3_WWE.exe
4. คลิก Run เพื่อแตกไฟล์ที่บีบอัดมา
5. เมื่อคลิด Next ก็จะขยายไฟล์ไปยังตำแหน่งที่กำหนด6. ให้รอในขณะที่กำลังแตกขยายไฟล์7. คลิก Next เพื่อเริ่มติดตั้งโปรแกรม8. คลิก Accept เพื่อยอมรับข้อตกลง และติดตั้งโปรแกรม
9. คลิก Next เมื่อไม่ต้องการเปลี่ยน Folder ที่ติดตั้ง
10. คลิก Install ติดตั้งโปรแกรม11. ให้รอจนกว่าจะเสร็จ
12. การติดตั้งโปรแกรมเสร็จสิ้น13. ส่วนไฟล์ keygen.exe จะเป็นไฟล์ของ serial key ให้ดับเบิลคลิกเพื่อหา serial key
14.เมื่อต้องการ Serail ให้คลิกที่ Serial Number
15. คัดลอก Serial Number ที่ได้จากไฟล์ Keygen
16. เมื่อ Serial Number ถูกต้อง ให้คลิก Next17. Copy Activation Number ไปวางใน Keygen คลิกAuthorization Code18. Copy Authorization Code ไปวางในช่องAuthorization Code แล้วคลิก Activate19. Activate เสร็จแล้วคลิก Done20. ไม่ต้องลงทะเบียนให้คลิกที่ Register Later ก็จะเสร็จสมบาณ์ในการติดตัง้
ส่วนประกอบหน้าจอแรกของโปรแกรม Adobe Captivate
Open a recent project แสดงไฟล์ล่าสุดที่เคยบันทึกไว ในโปรแกรม เปิดไฟล์ที่เคยบันทึกไว
Record new project (สำหรับการเริ่มต้นใช้งานแนะนำให้ใช้งานตรงส่วนนี้) สำหรับสร้าง project
บันทึก movie (จับหน้าจอภาพ)Getting started tutorials แนะนำขั้นตอนการสร้าง Project ด้วยโปรแกรม Adobe Captivate เริ่มตั้งแต่การบันทึก การแก ไขตกแต่ง การส่งออก การนำเข้าไฟล์เสียงการสร้างส่วน ตอบโต้ การใส่ลูกเล่นเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ ตามลำดับเริ่มต้นใช้งาน Adobe Captivate 3.0
เป็นที่ทราบกันแล้วว่าจุดเด นของโปรแกรม Adobe Captivate 3.0 มีความสามารถในการ สร้างMovie ได้หลากหลายรูปแบบ เริ่มแรกให้คลิกที่ Record or create a new project จะ ปรากฏหน้าต่าง ewproject options
10. Software Simulation หมายถึงว่าจะเป็นการจำลองการจับหน้าจอภาพตามที่เรากระทำ โปรแกรมจะ
ทำการเก็บภาพหน้าจอตามที่เรากระทำกับ Mouse หรือกระทำอื่นใดกับจอภาพ ในส่วนที่โปรแกรมให้เรา
เลือกจากรายการที่กำหนด มีหลัก การทำงาน ดังนี้
- Application สำหรับการ Capture movie ทั้งหน้าจอภาพ ของโปรแกรมที่เรา ต้องการจะทำการ
บันทึกการทำงานของหน้าจอ
- Custom size สำหรับการ Capture movie แบบกำหนดขนาดหน้าจอภาพได้
- Full Screen สำหรับการ Capture movie ทั้งหน้าจอภาพ
การสร้างผลงานสื่อการเรียนการสอนด้วยโปรแกรม Captivate รวมถึงการสร้าง Movies ควรเริ่มต้นโดย
วางแผนการสร้างภาพเคลื่อนไหว (Movie) โดยออกแบบ Storyboards, Scripts หรือใน รูปแบบอื่น
ตั้งค่าเริ่มต้นการใช้งานในการจับจอภาพเคลื่อนไหว (Movie preferences)บันทึกภาพเคลื่อนไหว ที่กระทำกับจอภาพ การคลิกกับวัตถุใด ๆ บนจอภาพ โปรแกรมจะ บันทึกไว1 สไลด์ ในการคลิกแต่ละครั้ง หรือจะนำเข้าไฟล์ภาพเคลื่อนไหวก็ได้ เพิ่มข้อความ รูปภาพ เสียง ข้อความเคลื่อนไหว และรายละเอียดส่วนอื่น ๆ แก ไขปรับปรุง Timeline ทดลองดูภาพเคลื่อนไหวที่สร้างขึ้น
11. กำหนดเงื่อนไขในการสร้าง E-Learning และสร้างสไลด์คำถามใน (เติมคำในช่องว่าง, แบบเหมือน,
จับคู , ตัวเลือก, ตอบสั้นๆ ,ถูกผิด)
เลือกจัดเก็บรูปแบบในการเผยแพร (Publish)
จัดเก็บและเผยแพร ในลักษณะไฟล์ฟอร์แมต EXE
จัดเก็บและเผยแพร ในลักษณะไฟล์ฟอร์แมต Flash และ เรียกใช้โดย HTML
จัดเก็บและเผยแพร ในลักษณะไฟล์ฟอร์แมต zip เพื่อใช่เป็น SCORM
จัดเก็บและเผยแพร ในลักษณะไฟล์ฟอร์แมต Word หรือ Handout (คู มือการใช้ งาน)
จัดเก็บและเผยแพร ไปบนเว็บไซต์ ด้วย FTP ส่ง Movie โดยใช้ E-mail
การสร้างภาพเคลื่อนไหวด้วยโปรแกรม Adobe Captivate 3.0 Step by Step
Step 1 คลิกที่ Record or create a new project
Step 2 จะปรากฏหน้าต่าง New movie options ให้คลิกที่ Record or create a new project
12. เมนูการใช้งาน New Project OptionsSoftware Simulation ใช้สำหรับจับภาพการเคลื่อนไหวของหน้าจอภาพ แสดงออกมา ในรูปแบบของสถานการณ จำลองApplication สำหรับการจับภาพของหน้าต่างที่เปิดใช้งานอยู่ (Active window) Custom size สำหรับการจับภาพหน้าจอที่กำหนดขนาดของขอบเขตได้ Full Screen สำหรับการจับภาพทั้งจอภาพDemonstration หมายถึง โปรแกรมจะจับหน้าจอตามการกระทำที่เกิดขึ้น มีการ เคลื่อนไหวของเมาส์ มี
กรอบโต้ตอบกับผู้เรียน
Assessment Simulation โปรแกรมจะบังคับให้ผู้เรียนกระทำตามที่ได้บันทึกหน้าจอไว เช่นถ้ามีการ
บันทึกการคลิกเมาส์ไว เมื่อเล่นมาจนถึงช่วงที่ต้องคลิกเมาส์โปรแกรมจะหยุด เล่นจนกว่าจะมีการคลิกเมาส์
และหากคลิกผิดที่จะมีกล่องข้อความขึ้นมาบอกว่าต้องคลิก ที่ใด เมื่อผู้เรียนคลิกเมาส์ถูกต้อง โปรแกรมจะเล่นต่อไปจนกว่าจะมีเหตุการณ ใหม่เกิดขึ้น
Training Simulation หมายถึงการจับหน้าจอแบบการฝึกอบรม โปรแกรมจะทำการบันทึก หน้าจอ
ทั้งหมด เมื่อมีการเล่นโปรแกรมจะแสดงกล่องข้อความโต้ตอบให้ผู้เรียนทำตาม การบันทึกหน้าจอแบบนี้
เหมาะสำหรับสอนการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทั้งนี้สามารถ บันทึกเสียงบรรยายไปพร้อมกันได้ด้วย
Custom โปรแกรมจะให้เราเข้าไปกำหนดค่าในการบันทึกได้ด้วยตนเองและสามารถแก ไข ได้อีกใน
ภายหลังการ Capture movie หน้าจอภาพเป็นการใช้งานที่น่าสนใจมากทีเดียว เพราะสามารถ นำไปใช้เป็นสื่อเรียนรู แบบมัลติมีเดีย ที่ดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี ซึ่งขั้นตอนการ
Capture movie หน้าจอภาพทำได้ดังนี้
1. คลิก Start, Programs, Macromedia, Adobe Captivate
เลือกโปรแกรมที่จะสร้างสื่อ
การเรียนการสอน
เลือกโปรแกรมให้พอดีกับขนาดที่ตั้งค่าไว้
อัดเสียงบรรยาย
ลักษณะที่จะบันทึก
เริ่มการบันทึก
2. คลิก Record or create a new movie จะปรากฏหน้าต่าง New movie options
3. คลิก Full screen เพื่อ Capture movie ทั้งหน้าจอภาพ
4. คลิก OK
Monitor แสดงสถานะจอภาพที่กำลังใช้งาน
Record narration เป็นการบันทึกเสียงบรรยายพร้อมๆ กับการ Screen capture movie
Recording size บอกขนาดการ Capture movie หน้าจอภาพ
Options… เป็นการปรับแต่งเพิ่มเติม ปกติจะใช้ค่าที่โปรแกรมกำหนดมาให้
Record เมื่อกดปุ่มนี้จะเป็นการเริ่มบันทึกการ Capture movie หน้าจอภาพ
5. คลิกปุ ม Record เพื่อเริ่มบันทึก การ Capture movie หน้าจอภาพ
6. กดปุ ม บนแป้นพิมพ์เมื่อสิ้นสุดการ Capture
7. ปรากฏสไลด์ Movie (Movie Frame) ซึ่งจำนวนสไลด์จะขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งที่คลิก เมาส์
เช่น หากมีการคลิกเมาส์ 10 ครั้งก็จะได้จำนวนสไลด์เท่ากับ10 สไลด์ หรือ 10 เฟรม สไลด์
Movie (Movie Frame)
8. คลิกปุ ม Edit เพื่อแก ไขสไลด์
9. การปรับแต่ง Timelineปกติแต่ละสไลด์จะมีค่า Timeline อยู่ที่ 4 วินาที ในรูปข้างล่างจะเป็น Slide 4(4.0s)สามารถปรับแต่งเพิ่มหรือลดค่า Slide Timeline ได้วัตถุที่วางบนสไลด์จะวางเรียงกันเป็นเลเยอร์(Layer) ถ้าต้องการปรับแต่ง Timeline วัตถุ
ใดก็ให้คลิกที่วัตถุนั้นแล้วลากซ้ายขวาคลิกแล้วลากเพื่อปรับแต่ง Timeline โปรแกรมจะสร้าง
ข้อความให้อัตโนมัติ สามารถดับเบิลคลิกเพื่อแก ไขข้อความได้
10. การแก ไขข้อความในสไลด์
ปกติโปรแกรมจะสร้างข้อความในสไลด์ให้อัตโนมัติ เราสามารถแก ไขข้อความได้ โดย
ดับเบิลคลิกแล้วแก ไขข้อความ ดังรูปข้างล่าง
เมื่อต้องการแก้ไขข้อความภายใน Text Caption ให้ดับเบิลคลิกก็จะสามารถแก้ไข
ข้อความได้11. การลบสไลด์
การลบสไลด์ทำได้โดยคลิกสไลด์ที่ต้องการลบ แล้วกดปุ ม บนแป้นพิมพ์
12. การเพิ่มสไลด์ จุดประสงค์เพื่อทำสไลด์ไตเติล
การเพิ่มสไลด์ทำได้โดยคลิกที่เมนู Insert, Blank Slide หลังจากเพิ่มสไลด์เราก็ สร้าง Text
animation เป็นสไลด์ไตเติลก่อนที่จะเข้าเนื้อหา
เมื่อได้ Slide แล้วให้นำขึ้นไปเป็นสไลด์แรก แล้วจึงแทรก Text animation13. การใส่สีพื้นหลังให้กับสไลด์
การใส่สีพื้นหลังให้กับสไลด์ทำได้โดยคลิกที่เมนู Slid, Properties…เลือกสีพื้น หลัง สีพื้น
หลังที่เลือก Text animation
14. การดูผลงานสไลด์ Movieการดูสไลด์ Movie ทำได้โดยคลิกที่ปุ ม Preview เช่นเลือก Preview In Web rowserสไลด์จะโชว์เป็นภาพเคลื่อนไหวตามลำดับสไลด์ เมื่อดูผลงานเสร็จแล้วให้คลิกปุ ม Close แล้ว
บันทึกไฟล์เก็บไว เพื่อแก ไขใน ภายหลัง15 การบันทึกไฟล์โปรแกรม Adobe Captivateการบันทึกไฟล์โปรแกรม Adobe Captivate คือการเก็บ ไฟล์ที่เราสร้างไว เพื่อประโยชนสำหรับการแก ไขในภายหลัง โดยโปรแกรม Adobe Captivate มีนามสกุลไฟล์ *.CP โดยวิธีการบันทึกให้ ไปที่เมนู File, Save หรือคลิกปุ ม Save บน Main Tools Bar
การสร้างงานด้วย Blank Project
การสร้าง Blank Project เมื่อตกลงจะได้หน้าใหม่ให้ตั้งค่าต่างดังนี้
User defined กำหนดขนาดตามความต้องการ เช่น ตัวอย่างเลือกขนาด 800 x 600
Preset size กำหนดขนาดตามความละเอียด (Resolution) ของจอภาพ
การสร้าง Movie ด้วยวิธีนี้จะอาศัยเครื่องมือที่อยู่ด้านล่างช่วยสร้างเครื่องมือที่สำคัญที่นิยมใช้กันดังนี้การสร้าง Text Animationคลิกที่ Object Tools ที่ชื่อ Text Animation ปรากฏหน้าต่าง New text Animation เลือก TextAnimation
แทรก Flash Vedio จัดตำแหน่ง
แทรก Animation
แทรก Rollover image เมาส์ผ่านเกิดเป็นภาพ
แทรกภาพ
แทรก Text Animation
แทรกปุ่มบังคับในสไลด์
แทรก Click Box คลิกตำแหน่งภาพ
แทรก Text Emtry การเติมคำในช่องว่าง
แทรก Zoom Area ขยายพื้นที่ต้องการ
แทรก Rollover slidelet
แทรก Rollover caption เมื่อเมาส์ลากผ่านตำแหน่งที่กำหนดจะมีข้อความเกิดขึ้น
แทรก caption คือการแทรกตัวหนังสือ
Effect เลือกรูปแบบการแสดงผลข้อความ
Text พิมพ์ข้อความที่ต้องการ
Change font… เปลี่ยนรูปแบบ ขนาด หรือสีของตัวอักษร20ค่าของ Optionsค่าของ Audio
การสร้าง Caption หรือสร้างหนังสือทั่วไป
เมื่อสร้างสไลด์ใหม่แล้ว คลิกที่ Object Tools ที่ชื่อ Caption ปรากฏหน้าต่าง New text CaptionTiming กำหนดเวลาการแสดงผลของ MovieLoop คลิกถูกที่ Loop กำหนดให้เล่นวนซ้ำTransition กำหนด Effect ในการเปลี่ยนฉากแต่ละสไลด์ (Frame)Record new… กำหนดการบันทึกเสียงจากไมโครโฟน
Import… นำเข้าไฟล์เสียง เช่น MP3, WAVSettings การกำหนดค่าของเสียงที่บันทึก เลือกไมโครโฟน
Caption type กำหนดลักษณะรูปแบบของCaptionFont…รูปแบบตัวหนังสือส่วนค่า option และ Audio จะมีลักษณะพื้นที่พิมพ์ตัวหนังสือ เหมือนกับ การสร้าง text Animation21
การสร้าง Rollover Caption
เป็นการสร้างหนังสือในรูปแบบที่เมื่อแสดงผลโดยการลากเมาส์ผ่านจุดที่กำหนดจึงจะปรากฏหนังสือออกมาให้เห็น เริ่มสร้างโดยคลิกที่ Object Tools ที่ชื่อ Rollover Caption ปรากฏหน้าต่าง RolloverCaption
การสร้างปุ่มควบคุม
โดยคลิกที่ Object Tools ที่ชื่อ Button ปรากฏหน้าต่างการแทรก Text Entry
Text Entry ใช้แทรกเพื่อทำกิจกรรมในระหว่างเรียนหรือเป็นการ
ทดสอบความสามรถของนักเรียน ซึ่งเป็นการเติมคำในช่องว่าง มีขั้นตอนดังนี้
1. สร้างคำถามด้วย Caption
2. เลือกไอคอน Text Entry บนจอภาพจะเกิดกรอบโต้ตอบใหม่ขึ้นมา
3. เลือกตำแหน่งแล้วปรับ Text Entry ให้เหมาะสม
4. เปลี่ยน Type success text here โดยดับเบิลคลิก แล้วเป็น ถูกต้อง
5. เปลี่ยน Type failure text hereโดยดับเบิลคลิก แล้วเป็น ผิดให้ตอบใหม่
6. แทรก Bottom ควบคุม
7. จัด Time Line ให้เหมาะสมข้อความที่ปรากฏในช่องคำตอบที่ถูกตกลง
การแทรกรูปภาพ (image)
โดยคลิกที่ Object Tools ที่ชื่อ Image ปรากฏหน้าต่างใหม่ให้เลือกรูปภาพที่จะแทรก
เมื่อเลือกรูปภาพแล้วถ้าหากภาพมีขนาดใหญ่จะมีหน้าต่างให้ Crop รูปภาพ .ให้ได้ขนาดพอดีกับ
พื้นที่ที่กำหนด ถ้าเลือก Resize จะทำให้ขนาดของภาพปรับลดขนาดลงให้พอดีกับพื้นที่กำหนด
Image กำหนดขนาดของภาพหรือเปลี่ยนภาพ
Click Box เป็นการทำที่เกี่ยวกับภาพและคำถามที่เกี่ยวข้องกับภาพเพื่อเป็นการฝึกให้นักเรียน
ทดลองทำหลังจากที่เรียนผ่านไป
โดยการคลิกที่ภาพตามคำถามที่กำหนดให้ มีขั้นตอนในการสร้างดังนี้
1. แทรกรูปภาพที่ต้องการทดสอบความรู้ของนักเรียน ด้วยไอคอน Image
2. แทรกคำถามด้วยไอคอน Caption
3. เลือกไอคอน Click Box บนจอภาพจะเกิดกรอบโต้ตอบ
4. ปรับตำแหน่งที่ต้องการให้คลิกเมาส์ที่ที่ตำแหน่งที่ถูกต้อง5. เปลี่ยน Type success text here โดยดับเบิลคลิก แล้วเป็น ถูกต้อง
6. เปลี่ยน Type failure text hereโดยดับเบิลคลิก แล้วเป็น ผิดให้ตอบใหม่
7. แทรก Bottom ควบคุม
8. จัด Time Line ให้เหมาะสม
การแทรกแบบทดสอบ
คลิกเมนู insert, Slide จะปรากฏหน้าต่าง Question Slide รูปแบบการ Question Slideรูปแบบการ Question Slideชนิดของแบบทดสอบที่โปรแกรมกำหนดให้มีหลายรูปแบบสามารถที่เลือกได้ตามความเหมาะสมใน
การสร้างบทเรียน เมื่อเลือกแบบทดสอบแล้วให้กดปุ่มสร้างแบบทดสอบ ก็จะได้หน้าต่างใหม่สำหรับสร้าง
กำหนดให้ถูกข้อเดียวหรือหลายข้อกำหนดให้เป็น A B C หรือ a b cกำหนดรายละเอียดข้อสอบการกำหนดรายละเอียดข้อสอบเพื่อนำออกไปใช้ประโยชน์ต่อไปการส่งออก (Publish) ไฟล์ *.CP
1. เปิดไฟล์ *.CP ที่เคยสร้างไว แล้ว
2. คลิกเมนู File, Publish จะปรากฏหน้าต่าง Publish รูปแบบการ Publish
ตัวอย่างนี้เลือก Publish เป็น Flash (SWF)และ HTML หลังจากที่ Publish ก็จะได้ ไฟล์ 2 ไฟล์ คือ
.SWF กับ .HTML
Flash (SWF) ส่งออกเป็น Flash movie File (.swf) สำหรับใช้งานบนเว็บไซต์ Adobe Connect
Enterprise ส่งออก Online บนอินเทอร์เน็ตStandalone ส่งออกเป็นไฟล์ *.exe สำหรับสื่อเรียนรู เปิดดูได้โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม E-Mailส่งออกเป็น E-MailPrint ส่งออกเป็นใบปลิว (ส่งออกโปรแกรม Microsoft Word) FTP ส่งออกเป็น File Transfer ProtocalOutput OptionsZip File ส่งออกเป็นไฟล์ *.ZIP ซึ่งสามารถนำเข้าบทเรียนออนไลน์ใน Moodle ในรูปแบบ ScromFull screen ส่งออกแบบเต็มจอภาพ เมื่อเลือกเพิ่มExport HTML ส่งออกเป็นไฟล์ *.HTML จะได้ทั้งไฟล์ที่เป็น .SWF กับ .HTMLGenerate autorun for CD สร้างระบบ autorun สำหรับแผ่น CD
Flash Version เป็นการเลือกรุ นของโปรแกรมเล่นไฟล์ FlashProject Information
โดยเลือก Preferences สำหรับตั้งค่าต่างก่อนที่จะนำออกไป จะปรากฏหน้าต่างใหม่ให้ตั้งค่า
Preferences แสดงข้อมูลเกี่ยวกับไฟล์ที่ส่งออก เช่น ขนาดของการแสดงผล (Resolution), จำนวน
สไลด์ทั้งหมด (Slides), การใส่เสียงประกอบสไลด์ (Slide with audio) คุณภาพของเสียง (Audio Quality),e-learning Output, แถบควบคุม Movie (Playback Control) Preferences… การกำหนดรูปแบบการส่งออกเพิ่มเติมStandalone ส่งออกเป็นไฟล์ *.exeในการสร้างสื่อการเรียนการสอนในรูปแบบที่เป็นลักษณะคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เพื่อที่จะให้นักเรียนนักศึกษาสามารถที่จะนำไปศึกษาเพิ่มเติมได้ด้วยตนเอง มีขั้นตอนการสร้างดังนี้
1. เลือกเครื่องมือ Publish แล้วเลือก Standalone เมื่อทำเสร็จสามารถที่ใช้งานได้เลยโดยเลือกเปิดเล่นจากไฟล์ที่สร้างขึ้นมา
2. ทำเหมือนกันทุกๆ หน่วย หรือที่มีอยู่จนหมดทุกงาน เพื่อที่จะสร้างเมนูสำหรับใช้งานให้ได้งานทั้งหมด
3. เลือกเมนู File แล้วทำภาพ
4. จะได้หน้าต่างใหม่ดังภาพแล้วทำตามได้เลย5. เลือกรูปแบบเมนู6. สร้างเมนูที่หน้าแรกของงานที่นำเสนอ7. จะได้หน้าต่างสำหรับตั้งชื่อแผ่นซีดี แล้วก็กด Finish
8. จะได้หน้าต่างสำหรับปรับแต่งเมนูให้เหมาะสม
9. เมื่อปรับแต่งเสร็จให้เลือกเครื่องมือ Export เพื่อนำไปใช้งานจริง
10. เมื่อเกิดหน้าต่างใหม่ขึ้นมาให้ตั้งชื่อและเลือก Folder ที่จะบันทึก แล้วกด Finish
11. จากนั้นให้ทดลองทดสอบว่างานที่ทำเสร็จสามารถใช้งานได้หรือไม่
12. เมื่อตรวจสอบแล้วก็ให้นำงานทั้งหมดใน Folder นั้น เขียนลงในแผ่นซีดีเพื่อนำไปใช้งานจริง
การบันทึกเพื่อนำไปใช้กับ Moodle
แต่ถ้าต้องการนำเข้าในโปรแกรม Moodle เพื่อสร้างบทเรียนออนไลน์ ในลักษณะที่เป็น Scorm
จะต้องเสร็จค่าให้เป็น Scorm ด้วยตามภาพ และเลือก Publish ให้ Zip files
เมื่อกำหนดค่าหมดแล้ว ก็กด Publish โปรแกรมจะทำการบันทึกไฟล์ตามรูปแบบที่กำหนดเมื่อ Publish เสร็จสามารถที่ดูงานที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ได้โดยกดปุ่ม View Output งานที่เสร็จนั้นก็จะแสดงผลให้ดูได้เลย
การนำบทเรียนที่สำเร็จใช้ร่วมกับ โปรแกรม Moodle เพื่อเป็น E_learning
สามารถที่จะทำได้โดยเปิดบทเรียน E_learning ที่สร้างไว้ก่อนแล้วได้ตามขั้นตอนดังนี้
1. เปิด Internet Explorer หรือตัวไหนก็ได้ที่สามารถเข้าอินเตอร์เนตได้
2. เลือกรายวิชาที่จะสร้างบทเรียนแล้วเข้าสู่ระบบในฐานะผู้ที่สามารถแก้ไขงานได้
3. เข้ารายวิชาแล้วให้เริ่มแก้ไขงาน
4. เลือกเพิ่มแหล่งข้อมูล เลือกแบบลิงค์ไฟล์หรือเว็บไซด์
5. จะมีหน้าต่างใหม่ให้เลือก
6. เลือกหรืออัพโหลดไฟล์ เพื่อนำไฟล์ที่สร้างเสร็จแล้วเข้ามาใช้งาน
7. จะได้หน้าต่างใหม่ให้เลือกไฟล์เข้ามาได้8. เมื่อเลือกอัพโหลดไฟล์นี้จะได้หน้าให้เลือกไฟล์
9. จะกลับมาที่หน้าให้บันทึกการเปลี่ยนแปลง
10. เมื่อบันทึกเสร็จก็สามารถที่จะแสดงผลงานผ่านหน้าเว็บไซด์ได้เลยโดยคลิกที่ชื่อของงาน
เมื่อเสร็จแล้วสามารถที่จะเพิ่มบทเรียนอื่นในทำนองเดียวกัน แต่ถ้าหากบทเรียนมีบททดสอบด้วย
ให้ใช้วิธีนำเข้าโดยการเพิ่มกิจกรรมแล้วเลือก Scrom :ขั้นตอนการนำเข้าคล้ายๆ กัน

วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

โปรแกรม VMWare

โปรแกรม VMWare

เป็นโปรแกรมที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อสร้างคอมพิวเตอร์เสมือน (Virtual Machine)
ขึ้นบนระบบปฏิบัติการเดิมที่มีอยู่ ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ลงระบบปฏิบัติการ Windows XP
อยู่เดิม แล้วทำการลงระบบปฏิบัติการ Windows NT ผ่านโปรแกรม VMWare อีกทีหนึ่ง
ซึ่งเมื่อลงแล้ว ทั้งสองระบบสามารถทำงานพร้อมกันได้โดยแยกจากกันค่อนข้างเด็ดขาด
(เสมือนเป็นคนละเครื่อง) โดยคอมพิวเตอร์เสมือนที่สร้างขึ้นมานั้น จะมีสภาพแวดล้อมเหมือนกับคอมพิวเตอร์จริงๆ เครื่องหนึ่ง ซึ่งจะประกอบด้วย พื้นที่ดิสก์ที่ใช้ร่วมกับพื้นที่ดิสก์ของเครื่องนั้นๆ การ์ดแสดงผล การ์ดเน็ตเวิร์ก พื้นที่หน่วยความจำซึ่งจะแบ่งการทำงานมาจากหน่วยความจำของเครื่องนั้นๆ เช่นกัน ปัจจุบันโปรแกรม VMWare มีเวอร์ชันทั้งสำหรับการทำงานบน Windows และ Linux หากเครื่องท่านเป็น Windows ก็สามารถลองเวอร์ชันสำหรับ Windows ได้ โดยท่านสามารถเข้าไปโหลดโปรแกรมมาทดลองใช้งานได้ที่
http://www.softpedia.com/get/System/OS-Enhancements/VMware-Workstation.shtml

วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2551

คำสั่ง unix

  1. คำสั่ง unix
    man เป็นคำสั่งการแสดงอธิบายการใช้คำสั่ง
    alias ใช้เป็นคำสั่งให้สั้นลง
    cal ใช้แสดงปฏิทินของระบบ
    clear คำสั่งลบข้อความต่างๆบนหน้าจอ
    cmp เปรียบเทียบไฟล์ 2 ไฟล์
    cat มีค่าเหมือนคำสั่ง type ของ bos ใช้ดูข้อมูลในไฟล์
    cut เป็นคำสั่งที่ใช้ตัดข้อมูลที่ไม่ต้องการออกจากระบบ
    date ใช้แสดงเวลาและวันที่
    diff ใช้เปรียบเทียบไฟล์ 2 ไฟล์มีความคล้ายต่างหันอย่างไร
    echo ใช้แสดงข้อความ HELLO
    exit ออกจากระบบ UNIX
    exipr ประมวลค่าจากสูตรคณิตศาสตร์
    find ใช้ค้นหาไฟล์ที่ต้องการ
    finger ใช้สำหรับแสดงรายละเอียด
    grep เป็นคำสั่งที่ใชหาข้อความในไฟล์
    head จะแสดงส่วนห้วแฟ้มข้อมูล
    move คำสั่งที่ช่วยให้สามารถดูข้อมูลที่มีขนาดได้เป็นช่วงๆ
    less เป็นไฟล์ข้อความเพื่อดูรายละเอียดอย่างรวดเร็ว
    passwd เป็น password คนที่ทำงานปัจจุบัน
    sort ใช้จัดเรียงข้อมูลนั้นเป็นการช่วยให้ผู้ดูแลข้อมูลนั้นสะดวกขึ้น
    su เพื่อให้ระบบมีความปลอดภัยมากขึ้นกำหนดให้ user คนไหนบ้าง
    tail ใช้สำหรับดูข้อมูลที่บรรทัดล่างสุดของไฟล์
    touch เป็นการสร้างไฟล์ไหม่หรือแก้ไขไฟล์
    w เป็นคำสั่งที่ใช้ในการกำหนดค่าที่ 8 บิต
    whoami เป็นคำสั่งที่แสดงว่าผู้ใช้ logni เข้าสู่ระบบ
    who เปลี่ยนตัวเองเป็น root
    which คำสั่งเพื่อส่งข้อมูลทางเดียวจากผู้เขียนไปถึงผู้รับ
    whereis ค้นหาแฟ้มที่ต้องการว่าอยู่ที่ห้องใด

วันอังคารที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ทรัพยากรณ์ของ UNIX

[PPT]
Slide 1
รูปแบบไฟล์: Microsoft Powerpoint - แสดงเป็นแบบ HTMLระบบปฏิบัติการ UNIX มีต้นกำเนิดจากห้องปฏิบัติการวิจัย Bell ... 1978 Version 7 ก็ ถูกพัฒนาออกมา ซึ่งเป็นต้นแบบของระบบ UNIX รุ่นใหม่ๆ หลังจากนั้น AT&T ...202.28.94.51/users/apisak/322361/2548/Test_Assign_Page.files/Data_REPORT/Group11_OS_Support/group11.ppt - หน้าที่คล้ายกัน


[PPT]
UNIX
รูปแบบไฟล์: Microsoft Powerpoint - แสดงเป็นแบบ HTMLAT&T แจก Code ของ UNIX ไปให้กับมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อหวังให้เป็นที่นิยมมากขึ้น แต่กลับทำให้เกิด UNIX ตัวใหม่ขึ้นมา เรียกว่า BSD UNIX (Berkeley Software ...www.compsci.buu.ac.th/~jakkaman/C_Programming/week01(18%20June%2001)/Unix.ppt - หน้าที่คล้ายกัน

wannalee: Unix & Linux
Unix & Linux. ประวัติและความเป็นมาของ Unix. ยูนิกซ์ (Unix แต่ชื่อตาม เครื่องหมายการค้าคือ UNIX) เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์แบบหลายงาน หลาย

ตอบคำถามความรู้เบื้องต้นเกี่ยว่กับ UNIX


**ความเป็นมาของระบบปฏิบัติการ UNIX**

ย้อนหลังไปในช่วงทศวรรษที่ 1940 และ 1950 เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่มีในโลกอาจกล่าวได้ว่าเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เนื่องจากระบบปฏิบัติการของเครื่องอนุญาตให้ผู้ใช้ใช้งานเครื่องได้เพียงครั้งละคนเดียว ดังนั้นผู้ใช้ที่มีความประสงค์จะใช้เครื่องต้องทำการจองเวลาใช้เครื่องไว้ล่วงหน้า เมื่อถึงเวลาที่จองไว้ผู้ใช้นั้นจะได้เครื่องคอมพิวเตอร์นั้นแต่เพียงผู้เดียวตลอดระยะเวลาที่จองไว้ ผู้ใช้อื่นไม่สามารถใช้งานเครื่องอีกได้ และโดยทั่วไปในระหว่างการใช้งาน ผู้ใช้ไม่ได้ใช้งานหน่วยประมวลผลกลางเต็มกำลัง เพราะอาจต้องหยุดคิดแก้ปัญหา หรือป้อนข้อมูลเข้าเครื่องซึ่งใช้ความสามารถของเครื่องน้อยมาก จึงกล่าวได้ว่าผู้ใช้งานนั้นไม่ได้ใช้เครื่องจนเต็มขีดความสามารถตลอดเวลา เนื่องจากระบบคอมพิวเตอร์ในยุคนั้นมีราคาแพงจึงเกิดแนวความคิดที่จะสร้างระบบปฏิบัติการที่ผู้ใช้สามารถใช้งานเครื่องได้เต็มกำลังตลอดเวลาโดยการให้ผู้ใช้แต่ละคนเตรียมงานไว้ล่วงหน้าโดยใช้บัตรเจาะรู เมื่อมีปริมาณของงานมากถึงระดับหนึ่งจึงจะเดินเครื่องและทำการอ่านงานเหล่านั้นเข้าไปประมวลผลต่อเนื่องกันไป ระบบปฏิบัติการเช่นนี้เรียกว่าระบบการประมวลผลแบบ batch ระบบนี้ช่วยให้ใช้งานเครื่องได้โดยมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม แต่อย่างไรก็ดีสำหรับผู้เขียนโปรแกรมแล้วระบบเช่นนี้ยังมีการตอบสนองไม่ดีนัก กล่าวคือเมื่อผู้เขียนโปรแกรมนำโปรแกรมต้นฉบับซึ่งอยู่ในรูปของบัตรเจาะรูไปส่งที่ห้องเครื่อง แล้วต้องรอเป็นระยะหนึ่งกว่าจะทราบผลการดำเนินการภายใต้ภาวะการณ์เช่นนี้การตรวจสอบและแก้ไขโปรแกรม (debugging) จึงเป็นกระบวนการที่กินเวลามาก หากผู้เขียนโปรแกรมลืมใส่เครื่องหมายวรรคตอนเพียงตัวเดียวผู้เขียนโปรแกรมต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงกว่าทราบความผิดพลาดนั้นและทำการแก้ไข ทำให้การพัฒนางานล่าช้า ดังนั้นผู้เขียนโปรแกรมโดยทั่วไปจึงต้องการระบบปฏิบัติการที่มีการตอบสนองเร็วเพื่อให้สามารถตรวจสอบแก้ไขโปรแกรมได้ดียิ่งขึ้น
จากความต้องการดังกล่าวนี้เองจึงมีการคิดระบบปฏิบัติการแบบ timesharing ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้หลายคนสามารถใช้เครื่องในเวลาเดียวกันได้ โดยอาศัยการแบ่งเวลาของหน่วยประมวลผลกลางให้แก่ผู้ใช้เวียนกันไป ระบบ timesharing ที่ประสบความสำเร็จเกิดขึ้นที่ Dartmouth College และที่ Massachusetts Institute of Technology (M.I.T.) โดยระบบของ Dartmouth College เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้สนับสนุนการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา BASIC เพียงอย่างเดียวและประสบความสำเร็จในการใช้งานทางธุรกิจในระยะหนึ่ง ส่วนระบบปฏิบัติการของ M.I.T. มีชื่อเรียกว่าระบบ CTSS เป็นระบบที่ได้รับการออกแบบเพื่อให้เป็นระบบปฏิบัติการเอนกประสงค์ และประสบความสำเร็จสูงกว่าโดยเฉพาะในกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ หลังจากระบบ CTSS ประสบความสำเร็จแล้วไม่นาน M.I.T., Bell Labs และบริษัท General Electric ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ได้ร่วมกลุ่มกันเพื่อทำการวิจัยและออกแบบระบบปฏิบัติการแบบ timesharingใหม่ให้มีความสามารถมากขึ้นและกำหนดชื่อระบบปฏิบัติใหม่เป็น MULTICS (MULTiplexed Information and Computing Service)
ระบบปฏิบัติการ MULTICS ไม่ทำงานตามที่คณะผู้ทำงานหวังไว้ เนื่องจากระบบได้รับการออกแบบให้สามารถรองรับผู้ใช้ได้หลายร้อยคนบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีหน่วยประมวลผลกลางซึ่งมีความสามารถสูงกว่าหน่วยประมวลผลกลางแบบ 80286 ในปัจจุบันเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ดีแนวความคิดดังกล่าวนี้เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ในยุคนั้นเนื่องจากเป็นระยะเริ่มต้นของการใช้คอมพิวเตอร์ โปรแกรมที่เขียนขึ้นใช้งานส่วนใหญ่เป็นโปรแกรมขนาดเล็ก สาเหตุที่แท้จริงของความล้มเหลวของโครงการนี้มีมากมายเช่นในการออกแบบระบบกำหนดให้มีการใช้ภาษาระดับสูงคือภาษา PL/I ซึ่งเป็นภาษาที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและมีการพัฒนาล่าช้ากว่ากำหนดการที่กำหนดไว้มากและมีข้อบกพร่องมากมาย นอกจากนี้แล้วยังมีการนำความคิดที่ล้ำสมัยหลายอย่างมาใช้ในขณะที่เทคโนโลยียังไม่พร้อม ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้โครงการนี้ไม่ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับการพัฒนางานของ Charles Babbage ในสมัยศตวรรษที่ 19เมื่อสิ้นระยะแรกของโครงการ ห้องปฏิบัติการ Bell ถอนตัวออกจากโครงการ ทำให้นักวิจัยคนหนึ่งในโครงการนี้คือ Ken Thompson ซึ่งว่างงานอยู่เริ่มหาแนวทางในการทำวิจัยต่อไปในที่สุดตัดสินใจที่จะทำการเขียนระบบปฏิบัติการ MULTICS แบบย่อส่วนขึ้นโดยใช้ภาษา Assembly โดยใช้เครื่องมินิคอมพิวเตอร์รุ่น PDP-7 ซึ่งว่างอยู่ในขณะนั้น ระบบปฏิบัติการของ Thompson สามารถทำงานได้เป็นอย่างดี ระบบปฏิบัติการนี้นักวิจัยอีกคนหนึ่งของห้องปฏิบัติการ Bell คือ Brian Kernighan ตั้งชื่อให้ว่า UNICS หรือ Uniplexed Information and Computing Service เพื่อเป็นการล้อเลียนโครงการ MULTICS และต่อมาได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็น UNIX

http://nooma511.exteen.com/20080923/unix



**คุณสมบัติของระบบ**

UNIXSoftwere tool- โปรแกรมบนUNIX จะแบ่งตัวเองออกเป็นส่วนย่อยๆและสามารถใช้งานส่วนย่อยเหล่านั้นร่วมกัน ระหว่างหลายๆโปรแกรมได้portability- เนื่องจาก UNIX สามารถนำไปใช้กับเครื่องแบบต่างๆได้มากมาย โปรแกรมที่ใช้งานบนUNIXจะสามารถนำไปใช้ได้ด้วยเช่นเดียวกันflexibility- UNIX จะมีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง สามารถนำไปใช้งานกับงานเล็กๆหรืองานใหญ่ๆก็ได้power- สามารถทำงานที่ซับซ้อนได้ดี และมีความสามารถในด้านต่างๆมากกว่าระบบปฏิบัติการอื่นๆmulti – user & multitasking- สามารถมีผู้ใช้งานได้ทีละหลายๆคน และทำงานหลายๆอย่างพร้อมกันElegance- หลักการทำงานของส่วนต่างๆจะเหมือนกันดังนั้นเมื่อผู้ใช้ทำงานส่วนหนึ่งได้ ก็จะเรียนรู้และใช้งานส่วนอื่นๆได้ง่ายnetwork orientation- UNIXเป็นระบบปฏิบัติการที่สนับสนุนการใช้งานเครือข่ายโดยเฉพาะเครือข่าย TCP/IP ซึ่งใช้ในระบบ Internet
http://q5a.blogspot.com/2008/09/blog-post_05.html


**โครงสร้างของระบบปฏิบัติการ UNIX**

ระบบปฏิบัติการ UNIX มีลักษณะโครงสร้างคล้ายระบบปฏิบัติการทั่วไปคือแยกการทำงานออกเป็นชั้นโดยในระดับล่างสุดเป็น hardware ประกอบด้วยหน่วยประมวลผลกลาง, หน่วยความจำ, จานแม่เหล็ก, จอภาพ และอุปกรณ์อื่นๆ ชั้นถัดมาเป็นระบบปฏิบัติการ UNIX ซึ่งมีหน้าที่ในการควบคุมและจัดการ process หน่วยความจำ ระบบแฟ้ม และhardware อื่นๆ รวมถึงการให้บริการต่างๆแก่ระดับชั้นที่อยู่เหนือขึ้นไปและสามารถให้บริการผู้ใช้โดยตรงผ่านการบริการที่เรียกว่า system call การทำงานของระบบปฏิบัติการในชั้นนี้เรียกว่า kernel mode ส่วนการทำงานของชั้นที่อยู่เหนือขึ้นไปทั้งหมดเรียกว่า user mode ชั้นที่อยู่ถัดจากระบบปฏิบัติการขึ้นไปเป็นชั้นที่เรียกว่า standard library ซึ่งเป็นที่รวมของโปรแกรมย่อยสำหรับบริการของระบบปฏิบัติการที่โปรแกรมผู้ใช้สามารถเรียกใช้ได้ เช่น open, close, read, write และ fork เป็นต้น ชั้นต่อไปเป็นชั้นของโปรแกรมอรรถประโยชน์ (utility) ในระบบ เช่น shell ตัวแปลภาษาเป็นต้น และชั้นสุดท้ายเป็นชั้นของผู้ใช้ (user)
จากโครงสร้างดังกล่าวแล้วเมื่อผู้ใช้ต้องการเรียกใช้บริการของระบบปฏิบัติการ (system call) จากโปรแกรมภาษา Assembly ผู้ใช้ต้องกำหนดค่า arguments ที่ต้องการลงใน register หรือใน stack ที่กำหนดไว้สำหรับ system call นั้นๆ จากนั้นจึงใช้คำสั่ง trap เพื่อเปลี่ยนภาวะการทำงานของโปรแกรมจาก user mode ไปเป็น kernel mode เพื่อทำงานตามความต้องการ สำหรับภาษาระดับสูงเช่น C ซึ่งไม่สามารถใช้คำสั่ง trap ได้โดยตรง ต้องมีการสร้าง library สำหรับเรียกใช้งาน system call เหล่านี้ โดยกำหนดให้มีโปรแกรมย่อยหนึ่งโปรแกรมต่อ system call หนึ่งตัว โปรแกรมย่อยเหล่านี้เขียนขึ้นด้วยภาษา Assembly และสามารถเรียกใช้ได้จากภาษา C เสมือนหนึ่งเป็นโปรแกรมย่อยที่เขียนขึ้นด้วยภาษา C เมื่อผู้ใช้ต้องการใช้งาน system call ผู้ใช้จะทำการเรียกใช้ได้เช่นเดียวกับการเรียกใช้ฟังก์ชันทั่วไปในภาษา C เช่นการเรียกใช้ READ system call โปรแกรมภาษา C จะทำการเรียกใช้ โปรแกรมย่อย READ ที่กำหนดไว้ใน library บริการหรือ system call เหล่านี้มีการกำหนดไว้เป็นมาตรฐานโดย POSIX เพื่อให้การให้บริการของระบบปฏิบัติการ UNIX ที่มีการพัฒนาจากผู้ผลิตต่างๆ มีการให้บริการแบบเดียวกันและมีวิธีการเรียกเหมือนกัน
นอกจากตัวระบบปฏิบัติการและ system calls แล้ว ระบบปฏิบัติการ UNIX ทุกระบบยังมีโปรแกรมอรรถประโยชน์ (utility) จำนวนมาก โปรแกรมเหล่านี้ส่วนหนึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน POSIX 1003.2 และอีกส่วนหนึ่งมีความแตกต่างกันออกไปตามผู้ผลิตและรุ่นระบบปฏิบัติการ โปรแกรมเหล่านี้ได้แก่โปรแกรมสำหรับติดต่อกับผู้ใช้เรียกว่า command preprocessor หรือ shell โปรแกรมตัวแปลภาษา (compiler) โปรแกรมสำหรับใช้พิมพ์เอกสารทั่วไป (editor) โปรแกรมสำหรับดำเนินการกับข้อความ (text processing program) และโปรแกรมสำหรับดำเนินการกับแฟ้ม หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือเป็นโปรแกรมทั่วไปที่ผู้ใช้เรียกใช้ในระบบนั่นเอง
จากที่ได้กล่าวมาแล้วจะเห็นได้ว่าการเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้และระบบปฏิบัติการ UNIX มีสามแบบคือ การเชื่อมต่อผ่าน system call การเชื่อมต่อผ่าน library และการเชื่อมต่อผ่านโปรแกรมอรรถประโยชน์ เนื่องจากผู้ใช้ทั่วไปมีการเชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการส่วนใหญ่ผ่านโปรแกรมอรรถประโยชน์ จึงทำให้ผู้ใช้ทั่วไปคิดว่าโปรแกรมอรรถประโยชน์เหล่านี้คือระบบปฏิบัติการ UNIX ซึ่งโดยความเป็นจริงแล้วเป็นโปรแกรมส่วนนี้ไม่ใช่ระบบปฏิบัติการและสามารถเปลี่ยนแทนได้โดยง่าย เช่นในระบบปฏิบัติการ UNIX ที่สนับสนุนการติดต่อกับผู้ใช้แบบรูปภาพ (Graphic User Interface) โดยใช้ระบบ X-Window สามารถนำโปรแกรมส่วนของการติดต่อกับผู้ใช้ด้วย mouse เพิ่มเติมเข้าในระบบหรือเปลี่ยนแทนโปรแกรมการติดต่อกับผู้ใช้ด้วยแป้นพิมพ์ โดยไม่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงตัวระบบปฏิบัติการแต่อย่างใด ความยืดหยุ่นเช่นนี้เองที่ทำให้ระบบปฏิบัติการ UNIX เป็นระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมแพร่หลาย และเป็นระบบปฏิบัติที่คงอยู่ได้ตลอดเวลาถึงแม้ว่าเทคโนโลยีจะเปลี่ยนแปลงไปเพียงใดก็ตาม


http://www.compsci.buu.ac.th/~seree/lecture/LinuxDoc/unix1.doc


**shell**

shell เป็นคำของ UNIX สำหรับการอินเตอร์เฟซ ระหว่างผู้ใช้กับระบบปฏิบัติการ shell เป็นชั้นของโปรแกรมที่เข้าใจ และประมวลผลคำสั่งที่ผู้ใช้ป้อนเข้า ในบางระบบ shell ได้รับการเรียกว่า command interpreter โดยทั่วไป shell หมายถึง การอินเตอร์เฟซกับไวยากรณ์คำสั่ง (เปรียบเทียบกับระบบปฏิบัติการ DOS และ "c:\>" คือ prompts และคำสั่งผู้ใช้ เช่น " dir" และ "edit" ) shell เป็นชั้นนอกของระบบปฏิบัติการ ดังนั้น จึงแตกต่างจาก "kernel" ซึ่งเป็นชั้นใจของระบบปฏิบัติการ หรือแกนของการบริการ

http://www.widebase.net/knowledge/itterm/it_term_desc.php?term_id=shell



**ระบบไฟล์และไดเรคทอรีบน UNIX **

UNIX มองทุกอย่างเป็นไฟล์หมด แม้แต่หน่วยความจำ (/dev/mem) ซีดีรอม (/dev/cdrom) เม้าส์ (dev/mouse) โมเด็ม (/dev/modem) ระบบไฟล์และไดเรคทอรีบนUNIX มีโครงสร้างแบบต้นไม้ (tree structure) โดยไดเรคทอรีนอกสุด คือ ไดเรคทอรีราก (root directory) ใช้ / เป็นตัวแทนครับ ซึ่งก็จะมีไดเรคทอรีย่อยแตกแขนง ออกไปอีกเช่น
/usr /local /lib /etc /bin
ในแต่ละไดเรคทอรีบรรจุไฟล์และไดเรคทอรีย่อยลงไปอีกเช่นใน /usr จะมี local bin

ชื่อไดเรคทอรีแบบนี้จะมีความหมาย ก็ต่อเมื่อ เรารู้ว่าไดเรคทอรีนอกก่อนคืออะไร วิธีเรียกชื่อแบบนี้ถูกเรียกว่า relative pathname แต่ถ้าหากเราใช้ /usr/local หรือ /usr/bin แทน local หรือ bin เราก็จะทราบโครงสร้าง tree structure ที่แท้จริงของไดเรคทอรีนี้ วิธีการเรียกแบบนี้เรียก absolute pathname ไดเรคทอรีที่ผู้ใช้ล็อกอินเข้าไปเรียกว่า home directory ซึ่งก็ขึ้นกับผู้บริหารระบบว่าจะให้ไปอยู่ที่ไหน

http://wiki.nectec.or.th/ntl/Main/Unix-doc

วันอังคารที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ระบบปฏิบัติการและ e-learning

1. คำอธิบายรายวิชา ระบบปฏิบัติการ 2
ศึกษาหน้าที่และการดำเนินงานของระบบปฏิบัติการ เกี่ยวกับการจัดการหน่วยความจำ หน่วยประมวลผลกลาง การจัดแฟ้มข้อมูล หน่วยรับและแสดงผล ข้อมูลในลักษณะเดียวของผู้ใช้คนเดียว งานเดียวและใช้หลายคน หลายงานพร้อมกัน รวมทั้งการสื่อสารระหว่างขบวนการ (Interprocess Communication : ICP)
http://work.srru.ac.th/bsdpt/curriculum/49191440101.doc
ที่มา : มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
http://bkk.vru.ac.th/it/itbd_sub.htm
ที่มา : มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรน์
http://www.cs45mcru.com/modules.php?name=History&file=explain
ที่มา : มหาวิทยาลัยหมู่บ้าน
http://reg.npu.ac.th/registrar/program_info_1.asp?f_cmd=2&levelid=3&programid=10003585&facultyid=1&departmentname=%C7%D4%B7%C2%D2%C8%D2%CA%B5%C3%BA%D1%B3%B1%D4%B5&programname=%E0%B7%A4%E2%B9%E2%C5%C2%D5%CA%D2%C3%CA%B9%E0%B7%C8&facultyname=%C8%D4%C5%BB%C8%D2%CA%B5%C3%EC%E1%C5%D0%C7%D4%B7%C2%D2%C8%D2%CA%B5%C3%EC&levelname=%BB%C3%D4%AD%AD%D2%B5%C3%D5+4+%BB%D5
ที่มา : มหาวิทยาลัยราชภัฏนครพนม
http://mis.pkru.ac.th/syllabus/view_syllabus.php?id=61
มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต
http://202.29.21.6/~bangkom/bindex.htm
มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี
http://academic.pcru.ac.th/index/course/7_12.htm
มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์
http://cs.mcru.ac.th/modules.php?name=History&file=explain
มรภ.หมู่บ้านจอมบึง จังหวัดราชบุรี

http://cptd.chandra.ac.th/index.php?Content=subject47
มหาวิทยาลัย ราชภัฏนครสวรรค์
http://www.nsru.ac.th/computer/curriculum/subject.php?id=4121402&course_id=3
สถาบันบัณฑิตบริหารศาสตร์

การแนะนำตัวเอง

ชื่อ : นายวิทยา ศิรินัย
รหัสนักศึกษา : 5012252111
ชื่อเล่น : บิ๊ก
เพื่อนสนิท : 1. นายโอภาส ศรีชื่น
To : 081613556
2. นาย รณชัย พิมพ์แต้ม
To : 0804717411
URL : http://bign99.blogspot.com/
http://www.big_n99@hotmail.com/
To : 0851396109
http://wittaya2531@yahoo.com